ติดต่อโทร.0-4400-9009

แฟกซ์.0-4424-4739

Module 9 : การทำไอศกรีมสมุนไพรมะม่วงหาวมะนาวโห่


     อาหารอีกอย่างหนึ่งที่เด็ก ๆ ชอบกันมาก เด็กๆ อยากรู้ไหมเอ่ยว่าคืออะไร ครูใบ้ให้นิดนึงนะ อาหารนี้เป็นประเภทของหวานจ๊ะ และเมื่อรับประทานแล้ว จะเย็นชื่นใจ เอาหล่ะนึกออกรึยัง … ไอศกรีมไงล่ะ เพื่อให้ไอศกรีมมีคุณค่าต่อร่างกาย เราจะมาทำไอศกรีมกันเองจากสมุนไพรรอบตัวเรา เป็นของภายในหมู่บ้านของเรามีอยู่แล้ว  ได้แก่ มะนาว มะขาม ตะไคร้ ใบเตย มะตูม มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นต้น สมุนไพรเหล่านี้ ปราศจากสีสังเคราะห์ เป็นสีจากธรรมชาติ ช่วยปรุงแต่งอาหารให้มีรสอร่อย ตามต้องการ และที่สำคัญ ให้วิตามินหลากหลาย ที่ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน ป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย สำหรับมะม่วงหาวมะนาวโห่กำลังเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน  ได้มีการทดลองกันพอสมควร  พบว่า  ป้องกันไวรัส  หวัด  ลดน้ำมูก  แก้เจ็บคอ  แก้ไอ  เป็นต้น  เอาหล่ะ  เราทราบสรรพคุณพอสมควร ต่อไปนี้เรามาเริ่มทำไอศกรีมสมุนไพรกันเถอะ ฤดูฝนประมาณเดือน  พฤษภาคม  และตุลาคม  มีสมุนไพรมะม่วงหาวมะนาวโห่ที่น่าสนใจมาก  จึงเลือกนำมาใช้ในการทำไอศกรีม    

อุปกรณ์และสารเคมี

น้ำแข็ง    หลอดทดลอง    เกลือแกง    บีกเกอร์หรือแก้วน้ำ
ช้อนตักสาร    เทอร์มอมิเตอร์  (ต่ำกว่า  0  องศาเซลเซียส)
        น้ำสมุนไพร เช่น มะม่วงหาวมะนาวโห่  น้ำมะนาว น้ำเก๊กฮวย น้ำตะไคร้ น้ำบัวบก ฯลฯ

 

วิธีการทดลอง

     1. นำหลอดทดลองมา  1  หลอด  ใส่น้ำสมุนไพรลงไปในหลอดทดลอง  
     2. นำหลอดทดลองในข้อ  1 ไปแช่ในบีกเกอร์ที่มีน้ำแข็งและน้ำอยู่ด้วย
     3. โรยเกลือลงบนน้ำแข็งในบีกเกอร์  สังเกตและบันทึกผลการทดลอง (วัดอุณหภูมิก่อนและหลังการทดลอง) 

คำถาม
1.    เกิดอะไรขึ้นที่ผิวนอกของภาชนะ และภายในหลอดทดลอง
        เห็นน้ำแข็งเกาะด้านผิวนอกภาชนะ  เปรียบได้กับการเกิดหิมะ/แม่คะนิ้ง  ส่วนภายในหลอดทดลองเกิดไอศกรีม
     ถ้าใช้น้ำตาลแทนเกลือจะให้ผลอย่างไร ลองทำดูที่บ้านนะจ๊ะ แล้วมาเล่าสู่กันฟังชั่วโมงหน้า
เหตุผล
    เนื่องจากเกลือแกงต้องการละลายตัวเอง  จึงต้องใช้ความร้อนในการช่วยละลาย  เกลือแกงจึงทำการดูดความร้อนจากรอบนอกหรือสิ่งแวดล้อมเข้าไป ทำให้อุณหภูมิรอบนอกบีกเกอร์ลดลงจนถึงจุดเยือกแข็ง น้ำสมุนไพรที่อยู่ในหลอดทดลองจึงกลายเป็นน้ำแข็ง เรียกว่าไอศกรีมสมุนไพร และเช่นเดียวกันรอบนอก บีกเกอร์จะเกิดน้ำแข็งเกาะที่ผิวด้วย  เปรียบได้กับแบบจำลองการเกิดหิมะ

มะม่วงหาวมะนาวโห่
ชื่อสามัญ Bengal-Currants, Carandas-plum, Karanda
ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas L. จัดอยู่ในวงศ์ตีนเป็ด (APOCYNACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยระย่อม (RAUVOLFIOIDEAE)
ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ  หนามขี้แฮด (เชียงใหม่), หนามแดง (กรุงเทพฯ), มะนาวไม่รู้โห่ (ภาคกลาง), มะนาวโห่ (ภาคใต้) 

ประโยชน์ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ 
     มะม่วงหาวมะนาวโห่ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนของต้น  ทั้งการรับประทานผลสดและนำไปประกอบอาหาร  การใช้ประโยชน์จากใบและยอดอ่อนรวมถึงราก ลำต้น ใบและยาง  สามารถแยกแยะประโยชน์ของมะม่วงหาวมะนาวโห่จากแต่ละส่วนได้ดังนี้
     - ส่วนเนื้อไม้มีรสเฝื่อน บำรุงร่างกาย
     - รากมีรสเฝื่อน เมา ช่วยขับพยาธิ บำรุงธาตุเจริญอาหาร
     - ผล มีสารต้านอนุมูลอิสระ  สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด  เป็นผลดิบมีรสเปรี้ยว  พอสุกมีรสค่อนข้างหวาน  นำมารับประทานเป็นผลไม้  ลดอาการเจ็บคอได้ดีมาก  แก้ไอ  แก้หวัด  ช่วยป้องกันไวรัส  ช่วยต้านมะเร็ง  และชลอความแก่  ช่วยให้ร่างกายสดชื่น  กระชุ่มกระชวย  รักษาและบรรเทาอาการถุงลมโป่งพอง  มีธาตุเหล็กสูง  ช่วยบำรุงเลือด  บรรเทาอาการโรคเก๊า ไทรอยด์  และโรคตับ  บรรเทาอาการมือเท้าชา  โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต  ฆ่าเชื้อและสมานแผล  ขับปัสสาวะ  มีวิตามินซีสูง  ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน  ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายและข้อ
     - ใบและยอดอ่อน  มีรสเฝื่อนเล็กน้อย  ใช้จิ้มกินกับน้ำพริกและลาบ  มีสรรพคุณแก้อาการท้องเสีย  ลดอาการไข้  แก้เจ็บคอ  รักษาแผลในปาก  ช่วยไข้มาลาเรีย  รักษาโรคบิด  โรคลมชัก  และรักษาริดสีดวงทวาร

 

แหล่งที่มา :  พันธุ์ทิพย์  ทิมสุกใส   มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา